การบริหารคลังสินค้า ต้องอาศัยความรวดเร็ว ถูกต้องแม่นยำ ธุรกิจไอทีเป็นธุรกิจที่สินค้าหมุนเร็ว แต่ต้นทุนต้องต่ำ หากจุดใดจุดหนึ่งในซัพพลายเชนราคาไม่สมเหตุสมผลอาจส่งผลกระทบให้ทั้งเชนอยู่ไม่ได้
SiS Distribution หรือ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 1 ใน 4 ยักษ์ใหญ่ของผู้ประกอบธุรกิจขายส่งคอมพิวเตอร์ ซอฟแวร์ อุปกรณ์ต่อพ่วง สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สำนักงานอัตโนมัติต่างๆ ในประเทศไทย ได้ย้ายคลังสินค้าเป็นครั้งที่ 2 ไปยังคลังสินค้าร่มเกล้า เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อขยายศักยภาพในการบริหารจัดการสินค้า และพบกับความท้าทายครั้งใหม่ในการจัดการพื้นที่คลังสินค้าจากแนวราบสู่แนวสูง
SiS ก่อตั้งเมื่อปี 2541 และเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2547 ปัจจุบันเป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ผลิตไอทีชั้นนำกว่า 70 ราย
คุณสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ ได้นำทีมงาน Logistics Digest ชมคลังสินค้าใหม่ที่ทันสมัยของ SiS ด้วยตัวเอง พร้อมเท้าความให้ฟังว่า สำนักงานแห่งแรกของ SiS ตั้งอยู่ที่อาคารชำนาญเพ็ญชาติ พระราม 9 ช่วงนั้นธุรกิจเป็นหลักพันล้านต้นๆ ถือว่ายังไม่ใหญ่มากจึงใช้พื้นที่ชั้นล่างของอาคารประมาณ 2,000 ตารางเมตรเป็นคลังสินค้า และเพราะเพดานไม่สูงมากจึงต้องจัดเก็บสินค้าในแนวราบ แต่ 3-4 ปีหลังจากนั้นยอดขายสูงขึ้นมากกว่า 20% ต่อปี พื้นที่เท่านี้ไม่เพียงพออีกต่อไป และมีอุปสรรคเรื่องรถใหญ่เข้าไม่ได้ SiS จึงย้ายเป็นครั้งแรกไปยังพระราม 9 ซอย 13 ซึ่งเป็นอาคาร 4 ชั้น พื้นที่รวมประมาณ 4,000 ตารางเมตร
ด้วยความที่เป็นอาคารเช่นเดิม การจับเก็บสินค้าจึงยังเป็นแนวราบ โดยใช้พื้นที่ชั้นล่างสำหรับการรับ-ส่งสินค้าแล้วนำขึ้นไปเก็บยังชั้น 2 – 4 ใช้อาคารนี้มานานเกือบ 10 ปี ก็ประสบปัญหาเดิมอีกครั้งคือพื้นที่เต็ม และเมื่อออเดอร์มากขึ้นก็ต้องรับ-ส่งของสลับกันไปมาตลอดทั้งวัน การรับ-ส่งของทำต่อเนื่องไม่ได้ และการทำงานลักษณะ 4 ชั้นทำให้ต้องใช้ลิฟต์ขนของซึ่งมี 2 ตัว จึงยังติดปัญหาในเรื่องความรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังพบปัญหาจากปัจจัยภายนอกร่วมด้วย คือเขตเมืองเติบโตอย่างรวดเร็ว เดิมบริเวณนี้ถือว่าห่างไกลชุมชน แต่ต่อมากลายเป็นว่าการที่ใช้รถใหญ่ขนส่งสินค้าเป็นการรบกวนผู้อยู่อาศัย ประกอบกับรถใหญ่ติดปัญหาเรื่องเวลาที่จะสามารถวิ่งในกรุงเทพฯ ได้ SiS จึงเริ่มมองหาคลังสินค้าแห่งใหม่ที่จะสามารถตอบสนองการเติบโตของบริษัทได้ในทุกเรื่อง
“เมื่อตัดสินใจว่าจะย้าย เราก็ค้นหา Location ที่เหมาะสมอยู่พักใหญ่ เป้าหมายคือต้องไม่ติดเรื่องเวลาการวิ่งของรถบรรทุกต่อไป ต้องไม่อยู่ในเขตเมืองหรือเขตที่อาจเติบโตเป็นเมือง ราคาสมเหตุสมผล และมีพื้นที่ให้ทันที 10,000 ตารางเมตร และหากพื้นที่เต็มก็มีพื้นที่ให้ขยายต่อไปได้” คุณสมชัย กล่าว
พื้นที่ที่จะไม่ติดเวลาแน่นอนคือนอกวงแหวน จึงสรุปได้ว่าเป็นคลังสินค้าที่ร่มเกล้าในปัจจุบัน เพราะเดินทางสะดวก และเหมาะกับการรับของทั้งจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าเรือแหลมฉบัง โดยขณะนี้คลังสินค้าแห่งใหม่นี้ใช้เฉพาะพื้นที่เฟสแรก 5,000 ตารางเมตร และกำลังจะขยายเฟสที่ 2 อีก 5,000 ตารางเมตร คาดว่าจะพร้อมใช้งานในวันที่ 1 มกราคม 2555
ปรับคลังสินค้าจากพื้นที่แนวราบสู่แนวสูง
เมื่อย้ายคลังสินค้าครั้งที่ 2 มายังคลังสินค้าร่มเกล้า ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเกี่ยวกับการบริหารคลังสินค้าของ SiS คือความสามารถของพื้นที่ในการจัดเก็บสินค้าแนวสูง คุณสมชัย อธิบายถึงการปรับตัวครั้งสำคัญว่าปัญหาส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากระบบ แต่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการและกระบวนการการทำงาน บางปัญหาก็เป็นปัญหาที่คาดไม่ถึง
ปัญหาที่พบทันทีคือพนักงานไม่ชำนาญในการจัดเก็บสินค้าแนวสูง เพราะไม่เคยทำสูงมากขนาด 10 เมตรมาก่อน เดิมที่พระราม 9 พื้นที่ทุกชั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ด้าน ด้านหนึ่งเป็น Open Space ไว้เก็บสินค้าแบบพื้นราบ อีกด้านจะเป็นชั้นเหล็กวางของซึ่งรับน้ำหนักได้ไม่มาก พนักงานต้องปรับตัว หัดขัดรถโฟล์คลิฟท์ เพื่อเก็บสินค้าขึ้น Rack ที่สูง
นอกจากนี้ยังพบปัญหาเรื่องหาของไม่เจอเนื่องจากพนักงานมักจะไม่เคร่งครัดว่าจะต้องจัดเก็บสินค้าให้ตรงช่องแม้ว่าระบบ SAP จะกำหนด Location มาให้แล้วก็ตาม จึงจำเป็นต้องเรียกพนักงานมาอบรมและปรับปรุง ซึ่งปัจจุบันไม่มีปัญหาเช่นนี้แล้ว
“เราไม่เคยใช้ Rack สูงมาก่อน ซึ่งเรามั่นใจในการเลือก SSI Schaefer มาเป็นผู้ออกแบบระบบจัดเก็บสินค้าให้ เพราะความเป็นมืออาชีพซึ่งมีหลักการบริหารงานเช่นเดียวกับเราคือ ‘ใส่ใจในสินค้าที่ขาย’ SiS ไม่ได้ขายแต่อุปกรณ์คอมพิวเตอร์แต่มีคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ให้แก่ลูกค้าและพร้อมให้บริการเสมือนเพื่อนแท้ SSI Schaefer ก็เช่นกัน เขาออกแบบระบบจากข้อมูลจริงของลูกค้าแล้วนำไปวิเคราะห์ว่าจะต้องใช้พื้นที่อย่างไรจึงจะเหมาะสม ควรจะมีชั้นสูง ชั้นเตี้ย Shelve กี่เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ แล้ววาง Lay out มาให้ดูอย่างชัดเจนซึ่งมันไม่ตรงกับที่คิดไว้ในตอนแรก เพราะเราคิดจากประสบการณ์ แต่ SSI Schaefer มีเหตุผล มีหลักการ จึงไม่ทำให้เราผิดหวัง” คุณสมชัย กล่าว
บริษัท เอสเอสไอ เชฟเฟอร์ ซิสเต็มส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้นำทางด้านการจัดเก็บสินค้าในด้านการให้คำปรึกษา แนะนำ วิเคราะห์ข้อมูล วางแผน ออกแบบ ติดตั้งเพื่อให้ลูกค้าได้รับผลประโยชน์สูงสุด อีกทั้งทางบริษัทฯยังเน้นบริการหลังการขาย เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในความปลอดภัยในระหว่างปฏิบัติงาน
แนวทางการลงทุนในอนาคต
ปัจจุบัน SiS ใช้ระบบ SAP กับ 2D Barcode ในการบริหารคลังสินค้า แต่ก็ยังคงต้องการให้ทันสมัยขึ้นไปอีกด้วยการเขียนโปรแกรมสนับสนุนเพิ่ม ให้พนักงานใช้ Computer Handheld เพื่อให้ทำงานได้อย่างเบ็ดเสร็จหน้างาน
เมื่อถามถึงโครงการการลงทุนด้านเทคโนโลยีในอนาคต คุณสมชัย กล่าวว่า หากบริษัทมีออเดอร์เกิน 5,000 รายการต่อวัน ก็มีแผนที่จะเป็น Fully Automated และใช้ระบบรางเข้ามาช่วย
“การลงทุนนั้นต้องทำให้สอดคล้องกับปริมาณงาน ซึ่งในเฟสแรกนี้เราลงทุนไปประมาณ 30 ล้านบาท ในอนาคต SiS ยังมุ่งมั่นพัฒนาและมองหาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใหม่ๆ เข้ามาใช้อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้บริการของเรามีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะเราทราบดีว่าการพัฒนานั้นไม่มีวันจบ” คุณสมชัย กล่าวทิ้งท้าย